Blog
โต๊ะทำงานไม้มือสอง เลือกซื้ออย่างไร ให้มีคุณภาพดี สภาพยังแจ่ม
สำหรับการตกแต่งบ้านหรือหาเฟอร์นิเจอร์นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นมือ 1 เสมอไปมือ1 ก็คือสินค้าป้ายแดงที่ออกจากร้านค้าเลยนั่นเอง แต่สำหรับบางคนนั้นอาจจะชื่นชอบสินค้ามือ 2 สภาพดีก็มีเยอะแยะไป ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องซื้อของตกแต่งบ้านไปในตัว โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงการเลือกของมือ 2 รวมไปถึงโต๊ะทำงานไม้มือสอง ซึ่งมีวิธีการเลือกอย่างไรบ้าง ให้ได้สภาพที่ดี จะมีวิธีการเลือกอะไรบ้างไปดูกัน
สำหรับวิธีการเลือกซื้อ โต๊ะทำงานไม้มือสอง เราได้มาฝากไว้ทั้งหมด 8 ข้อ ซึ่งอาจจะดูเยอะแต่ที่จริงไม่เยอะเลยสำหรับของมือสองสภาพดีที่เราจะได้มา ถ้าทำตามวิธีที่เราได้มาบอก รับรองว่าของมือสองหรือโต๊ะทำงานไม้มือสอง ที่จะได้มานั้น สภาพสินค้าดีคุ้มราคาอย่างแน่นอนจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.กำหนดงบในการซื้อ
การกำหนดงบในการซื้อก็เป็นเรื่องหลักๆ ในการซื้อของมือ 2 เลยทีเดียวหรือซื้ออะไรก็ตาม เพราะทุกอย่างมันต้องใช้งบ ไม่ว่าจะเป็นงบในการเดินทาง หรืองบในการซื้อโต๊ะทำงานไม้มือสอง ต่างก็ต้องใช้เงินเพราะฉะนั้นคุณควรดูราคาให้ดีว่าราคาที่จะซื้อนั้นตรงกับ สภาพหรือคุ้มกับสินค้าหหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นงบอาจจะบานปลายก็เป็นได้
2.เช็คราคาสำหรับมือ 2 ว่าคุ้มไหม
สำหรับการเช็คราคาหรือการทำการบ้านตรวจสอบราคา ก่อนไปซื้อ โต๊ะเก้าอี้มือสองภาพดีมาก ก่อนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากของมือสองแน่นอนว่าต้องถูกกว่ามือหนึ่งอยู่แล้ว แต่มันควรจะถูกเท่าไหนเรามาดูกัน สำหรับของมือสองโต๊ะทำงานไม้มือสองควรมีราคาถูกกว่าของมือหนึ่งประมาณ 30-50% ถ้าสูงกว่านี้ไม่ควรซื้อ นอกจากเฟอร์นิเจอร์บางประเภทที่ยิ่งมีอายุการใช้งานยิ่งแพงนนั่นเอง
3.เช็คสภาพไม้ว่าดีพอไหม
ข้อนี้ก็สำคัญเพราะว่าการเช็คสภาพโต๊ะทำงานไม้มือสอง ก่อนซื้อถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ต้องเช็คให้รอบสินค้าว่ามีสภาพเป็นอย่างไรควรซื้อไหม หรือว่าคุ้มไหมถ้าซื้อไป เพราะฉะนั้นควรมีสติในการเช็คให้ดีที่สุดแล้วค่อยทำการตัดสินใจอีกรอบ
4.วัดขนาดพื้นที่ในบ้านก่อนจะมาซื้อ
สำหรับการวัดขนาดพื้นที่ก่อนที่จะทำการซื้อนั้น เป็นข้อดีที่จะช่วยให้เราประหยัดเวลามากขึ้น เพราะหลายคนไม่วัดพื้นที่ในการวางพอไปซื้อมาวางไว้ก็เกิดปัญหาเข้าบ้านไม่ได้บ้าง หรือเล็กไปใหญ่ไป ไม่พอดีไม่สมส่วนมองแล้วไม่สวย เรียกได้ว่าเป็นปัญหาหลักเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นใครที่จะซื้อ โต๊ะเก้าอี้มือสองภาพดีมาก ต้องวัดขนาดที่บ้านเราว่าถ้าซื้อมาแล้วโต๊ะเราจะวางพอดีไหม และที่สำคัญให้เราวัดขนาดทางเข้าประตูบ้านและขนาดบ้าน ที่เราจะนำโต๊ะทำงานไม้มือสองผ่านเข้ามาเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการขนย้าย
5.เช็คเครดิตร้านค้าว่าดีไหม
แน่นอนว่าการที่เราจะไปซื้อของแต่ละชิ้นนั้นอันดับแรก เราต้องมองร้านที่ขายให้เราก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะซื้อของอะไรก็ตามรวมถึงโต๊ะทำงานไม้มือสอง ก็ควรเช็คเครดิตร้านว่ามีคุณภาพไหม น่าเชื่อถือหรือเปล่ายิ่งเป็นของมือสองยิ่งต้องตรวจดีๆ หรือสามารถเช็คจากรีวิวลูกค้าที่เข้ามาซื้อแบบนี้ ก็จะง่ายต่อการตรวจสอบระดับหนึ่ง
6.ทดลองใช้งานเบื้องต้น
สำหรับการเลือกซื้อโต๊ะทำงานไม้มือสอง สิ่งที่เราต้องทำก่อนที่จะจ่ายเงินก็คือทดลองการใช้ง่าย ไม่ว่าจะนั่งทำงาน หรือการวางของเพราะว่าการทดลองใช้งาน เป็นสิ่งที่จะทำให้เรารู้ว่าเราเหมาะกับโต๊ะทำงานไม้มือสองตัวนี้ไหม เนื่องจากสมัยนี้เราเจออะไรที่เราชอบก็ซื้อๆ มาพอสักพักก็เลิกใช้งาน ซึ่งเป็นการเสียเงินไปเฉยๆ และถ้าทดลองการใช้งานและคุณชอบจริงก็สามารถตัดสินใจซื้อได้เลย
7.เรียนรู้การรักษาโต๊ะทำงานไม้มือสอง
เมื่อเราซื้อโต๊ะทำงานไม้มือสองมาแล้ว เราก็ต้องรู้จักวิธีการรักษาให้ถูกต้องและยิ่งเป็นพื้นไม้เรายิ่งต้องจะดูแล ให้เป็นพิเศษเลยทีเดียว เพราะว่าไม้นั้นสามารถเกิดความชื้นได้ถ้าเราปล่อยให้น้ำซึมเข้าตัวโต๊ะ หรือต้องฉีดยากันปลวกเพื่อไม้ให้ปลวกมาทำร้ายโต๊ะเรา และทำความสะอาดเป็นประจำ ยิ่งตอนซื้อมาก็ต้องทำความสะอาดยกใหญ่ก่อนรอบแรกเพื่อการใช้งานแบบสบายใจ
8.อย่าลืมต่อรองราคา
ข้อนี้หลายๆ คนก็คงอยากจะทำกันอยู่แล้ว แต่แนะนำว่าให้พูดต่อรองเจรจาไปได้เลย เพราะว่าร้านประเภทนี้เขามีราคารองสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการต่อรองราคากันอยู่แล้ว ถึงจะลดไม่เท่าไหร่ก็ถือว่าลดเพื่อเป็นการประหยัดเงินไปในต่อ สามารถนำเงินส่วนที่ลดไปทำหรือต่อยอดอย่างอื่นได้อีก
และทั้งหมดนี้คือวิธีการเลือก โต๊ะทำงานไม้มือสอง หรือของมือสองให้ได้ของที่มีสภาพดีและคุณภาพดี เพื่อนๆ สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กับการเลือกซื้อของมือสองที่เพื่อนๆ ต้องการได้เลย และเชื่อว่าข้อมูลที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณไม่มากก็น้อย